|
ลำโพง Sound Bar น่าเศร้า โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ ในยุคที่การดูทีวี จะเป็นแผ่นแบนของจอ LCD เกือบ 100% แทบไม่มีใครดูทีวีจอแก้วอ้วนๆ กันอีกแล้ว เมื่อตัวจอบางลงทุกวัน แถมแข่งกันลดขอบจอให้แคบเข้าๆ เพื่อให้ดูสวยงาม ผลคือ ต้องฝังลำโพง(จิ๋ว) ไว้ตามรอบๆ จอ มีทั้งฝังขอบล่างเพื่อยิงเสียงตรงออกมาหน้า หรือยิงลงพื้นก็มี บ้างก็ฝังที่ขอบจอซ้าย, ขวา ยิงเสียงออกซ้าย, ขวา จากการที่เนื้อที่ติดตั้งลำโพงจำกัดมากๆ จึงต้องใช้ดอกลำโพงเล็กมาก แถมบางทีเป็นรูปไข่หรือวงรียาว พวกนี้ไม่มีทางสวิงเสียงได้ดังเพราะกรวยขยับได้จำกัดมาก(ดอกเล็ก) อีกทั้งเกือบทั้งหมดใช้ลำโพงแบบดอกเดียว ออกทุกความถี่ หรือ Full range จึงไม่ต้องคาดหวังว่าเสียงจะทุ้มอิ่ม แหลมจะสดใสกรุ้งกริ้ง ความถี่ตอบสนองน่าจะ 300 Hz ถึง 12 kHz แม้จะแต่งเสียงช่วย (EQ) ก็คงได้สัก 200 Hz ถึง 13 kHz เอาพอว่าเสียงไม่อู้ก้องแต่เสียงกลาง การมีปริมาตรตู้ลำโพงเล็กมาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่เสียงจะทุ้มอิ่ม หนักแน่นลงลึกได้ ดอกลำโพงที่มีขนาดแค่ครึ่งถึงหนึ่งนิ้ว แถมกรวยต้องแข็งเพื่อเร่งดังแล้วไม่พังง่าย จึงลืมได้เลยที่กรวยจะขยับเข้า-ออกได้ฉับไวแม้ที่ความถี่สูงๆ แหลมจึงไม่มี หรือออกมาแบบเค้นๆ ไม่สดใสกรุ้งกริ้ง อีกข้อคือ กำลังขับ(แอมป์) ของภาคขยายเสียงที่มากับจอ ก็น้อยนิด 3 W – 15 W มันเอาพลังอะไรไม่ได้เลย แถมมักมีวงจรคอยกดการสวิงดังของเสียง (compression) เพื่อหลอกหูว่าเสียงดัง และป้องกันภาคขยายและลำโพงพัง เสียงจึงฟังซื่อบื้อ ขาดอารมณ์ บางยี่ห้อ โดยเฉพาะรุ่นจอ 55 นิ้วขึ้นไป จะคุยว่า ได้เพิ่มลำโพงเสียงทุ้มที่ด้านหลังจอ ช่วยให้เสียงกระหึ่มขึ้น แต่ยังไงๆ ก็จำกัดมากในปริมาณตู้ที่จะทำให้ทุ้มอิ่ม, ลึก บางยี่ห้อ เอาส่วนประกอบดอกลำโพงแปะเข้าที่หลังจอ แล้วปล่อยการสั่นสะเทือนจากดอก ผ่านตัวจอไปออกด้านหน้า โดยอ้างว่าทำให้เสียงกับภาพที่จอ ตรงกันดีที่สุด การทำอย่างนี้ เสียงกลางสูงถึงสูงจะหดหายมหาศาล ก็ต้องแต่ง EQ มาจากโรงงานช่วยยกแก้เอาไว้ การผ่าน EQ (ส่วนใหญ่ ดิจิตอล EQ) เสียงก็แบน, แห้งอยู่แล้ว จริงๆ แล้ว พวกเขาไม่รู้เลยหรือว่า การสั่นสะเทือนตัวจอด้วยลำโพงที่มากับจอ จะทำให้ตัวจอพังเร็ว (อย่าไปสนใจราคาคุยว่า จะมีอายุยืน นั่นมันต้องไม่มีอะไรไปเขย่า ขย่มมัน) แถว ภาพจะลดความคมชัดลง มิติภาพจะแบนลง ยังไม่นับว่าอะหลั่ยภายในวงจรอิเล็คโทรนิคส์จะสั่น ภาพ/เสียงจะแย่ลง และพังเร็วขึ้น การสั่นของจอ ทำให้การแยกเสียงซ้าย, ขวาแย่ลง เวทีเสียงแคบ แม้จะใช้วงจรถ่างเวทีเสียง ก็จะได้เสียงหลอกๆ ออกมา ฟังนานๆ เลี่ยน น่าเบื่อ คลุมเครือไปหมด แม่เหล็กของดอกลำโพง ยังไปรบกวนวงจรอิเล็กโทรนิกส์ภายใน ภาพและเสียงก็แย่ลง วอยซ์คอยล์ของแต่ละดอกลำโพง จะดึงดูดคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) รอบๆ ไม่ว่าจากตัวจอภาพเอง (LCD, LED, OLED) จาก Wi-Fi, LAN, คลื่นมือถือ, คลื่นจากรีโมท, จากดวงไฟ LED ในห้อง จากตัวมือถือเอง จาก PC/โน้ตบุ๊ค, จากเครื่องปรับอากาศ inverter, ตู้เย็น เครื่องซักผ้า inverter, จากระบบแปลงไฟ solar cell, จากวิทยุ VR, สถานีวิทยุ, โทรทัศน์ ฯลฯ ผ่านตัววอยซ์คอยล์ของดอกลำโพง ย้อนกลับไปป่วนทุกภาคอิเล็คโทรนิคส์ของตัวจอ ยิ่งถ้าเราต่อสายภาพ HDMI จากเครื่องเล่น Bluray ที่ปล่อยทั้งสัญญาณภาพ(ดิจิตอล) และเสียง(ดิจิตอล) ไปใช้ตัวแปลงเสียงดิจิตอลเป็นอนาลอก (DAC) ในจอทีวี วงจร DAC นี้ก็จะป่วนทุกภาคในตัวจอ ยิ่งภาคขยายทั้งหมด (ที่มากับจอ) เป็น class D ด้วย ภาคขยายนี้ก็จะป่วนกับ DAC และวงจรภาพหนักขึ้นไปอีก คิดในแง่นี้แล้ว จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะฟังเสียงจากตัวจอ หรือผู้ผลิตน่าจะทำรุ่นที่ไม่มีระบบเสียงมาด้วย (เป็นจอล้วนหรือ Monitor) ราคาจะถูกลงมากพอควร แถมคุณภาพของภาพจะดีขึ้นเยอะ (เหตุผลที่จอ Monitor ในสตูดิโอ เขาตัดวงจรเสียงออกหมด) แล้วเราจะฟังเสียงได้อย่างไร ทางออกคือ 1. หาชุดลำโพง/แอมป์ ที่เป็นตู้ยาวๆ มาวางใต้จอ (Sound Bar) 2. หาชุด MINI คอมโปมาเสริม (19,900 บาท/ชุด ก็สุดยอดแล้ว) 3. ต่อเสียงเข้าชุดเครื่องเสียงบ้านแยกชิ้น กรณีแรก Sound Bar เนื่องจากแนวคิดของการทำ Sound Bar ก็ยังคงมีข้อจำกัดเรื่องรูปทรงที่ต้องผอมเรียวเล็กเพื่อไม่ให้บังจอ ไม่เกะกะสายตา ไม่น่าเกลียด ตัวตู้จึง “ใหญ่ไม่ได้” ผลคือ ให้ออกแต่เสียงทุ้มต้น, กลาง, แหลม (เพิ่มดอกเสียงแหลมมาในรุ่นกลางขึ้นสูง แต่รุ่นถูกก็ยังคงเป็นดอก Full range) พร้อมเพิ่มตู้ซับวูฟเฟอร์มาให้ต่างหาก (ภาคขยายจะอยู่ในตู้นี้) ตัวแท่ง Sound Bar มีทั้งง่ายๆ ดอกซ้าย, ดอกขวา จบ หรือ ดอกซ้าย, ดอกกลาง, ดอกขวา หรือ เพิ่มดอกของเสียงหลังอีก 2 (Surround) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชุด Sound Bar จะใช้ภาคขยาย class D และมี DAC ด้วย ก็จะเกิดปัญหาเหมือนกับที่มากับจอทุกประการ เสียงไม่มีทางดีได้อีกกี่มากน้อย (ถ้าจะฟังจับผิดกัน) เป็นแต่ว่าเสียงจะกระหึ่มอิ่มขึ้น (ภาคขยาย, ดอก, ตู้ใหญ่ขึ้น) แหลมกรุ้งกริ้งขึ้น (มีดอกแหลมช่วย) ที่แย่มากคือ ดอกลำโพงที่มากับตัวตู้ Sound Bar จะติดตั้งหันหน้าตรง ยิงเสียงตรงตั้งฉากมาหาเรา ทรวดทรงของเสียงไม่มีทางดีได้เลย (ไม่เป็น 3D, ดูบทความเรื่อง ทำไมเราต้องเอียงตู้ลำโพง (TOE IN) ในเว็บนี้) นอกจากนั้น เวทีเสียง, เสียงต่างๆ จะแบนติดจอ เป็นแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง ไม่มีลำดับตื้น-ลึกไล่จากหน้าไปหลัง เวทีเสียงจริงๆ ก็แคบ ไม่เป็น “บรรยากาศ” (Holographic) พูดตรงๆ ทุกครั้งที่เดินดูในห้าง หรือเห็นใครหลงผิดซื้อ Sound Bar รู้สึกสงสารจับใจ จริงๆ เอาเงินไปซื้อชุดมินิคอมโปดีๆ งบสัก 6-7 พันบาท ถึง 20,000 บาท (DENON M41) แม้ทุ้มจะไม่ตูมๆ (ไล่ควาย) อย่างพวก Sound Bar ที่มีตู้ขับแยก แต่คุณภาพเสียง, มิติเสียง, ความสมจริง มีเสน่ห์ ดีกว่า Sound Bar คนละชนชั้นเลย แถมเอาไปฟัง CD, วิทยุ ก็ได้ด้วย ที่ไม่มีใครคิด ตัวแท่ง Sound Bar เอง ที่ชอบนักในการเอาไปวางใต้จอ ทราบไหมว่า ทั้งสองจะป่วนกันเองไปมา ภาพ/เสียงก็แย่ลง เดี๋ยวนี้ มี Sound Bar แบบเสียงรอบทิศ หรือ Dolby ATMOS ก็อยากให้หาอ่านเรื่อง การฟังเสียงรอบทิศด้วยระบบ 2 CH ลำโพงคู่เดียว และ Dolby ATMOS ไม่จำเป็น ในเว็บนี้เช่นกัน (แล้วจะตาสว่าง) แย่มากที่วงการเครื่องภาพ นับวันจะไร้สาระกันมากขึ้นๆ www.maitreeav.com |